ถังเก็บตัวอย่างไนโตรเจนเหลวของฟิลิปปินส์เซลล์เก็บตัวอย่างถังแช่แข็งถังอลูมิเนียมการบิน

ถังไนโตรเจนเหลวซีรีส์ YDS ส่วนใหญ่จะใช้เพื่อจัดเก็บไนโตรเจนเหลวและตัวอย่างทางชีวภาพ

ถังไนโตรเจนเหลวหรือที่เรียกว่า "ภาชนะบรรจุไนโตรเจนเหลวทางชีวภาพ" เป็นภาชนะอุณหภูมิต่ำที่สามารถเก็บไนโตรเจนเหลวและตัวอย่างทางชีวภาพได้ ตามการใช้งาน พวกเขาสามารถแบ่งออกเป็นถังเก็บไนโตรเจนเหลว ถังไนโตรเจนเหลวแบบแรงดันตัวเอง และถังไนโตรเจนเหลวที่ใช้แก๊ส ถังเก็บไนโตรเจนเหลวยังสามารถแบ่งย่อยเป็นประเภทการจัดเก็บและประเภทการขนส่งประเภทการจัดเก็บส่วนใหญ่จะใช้สำหรับการจัดเก็บแบบคงที่และไม่เหมาะสำหรับการขนส่งทางไกลระหว่างการทำงานประเภทการขนส่งได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้ตรงตามเงื่อนไขการขนส่งและ มีฟังก์ชั่นป้องกันการกระแทกภายใน รองรับ และยังช่วยให้สามารถจัดเก็บแบบคงที่ได้เมื่อจำเป็น

เนื่องจากมีการใช้ถังไนโตรเจนเหลวเพื่อเก็บตัวอย่าง จึงจำเป็นต้องใช้อย่างถูกต้อง:

ก่อนใช้งาน:

1. ตรวจสอบโถ

ตรวจสอบว่าเปลือกมีรอยบุบหรือรอยบุบหรือไม่ และช่องสูญญากาศยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์หรือไม่

ตรวจสอบว่ามีสิ่งแปลกปลอมหรือสิ่งเจือปนอยู่ในถังหรือไม่ หากมีวัตถุแปลกปลอม จะต้องถอดออก เพื่อป้องกันไม่ให้ถังด้านในสึกกร่อน

2. การระบายความร้อนล่วงหน้า

ฉีดไนโตรเจนเหลวจำนวนเล็กน้อยลงในถังเพื่อทำให้ถังด้านในเย็นลง

หลังจากฉีดไนโตรเจนเหลวแล้ว ให้ปิดจุกที่คอแล้วรอสักสองสามชั่วโมงจนกระทั่งปรากฏการณ์การเดือดหายไปและไนโตรเจนเหลวจะคงตัว

การทำความเย็นล่วงหน้าจะเสร็จสมบูรณ์เมื่อหยดน้ำหรือน้ำค้างแข็งที่เกิดจากการแลกเปลี่ยนความร้อนบนตัวกระป๋องหายไป และไม่มีน้ำค้างแข็งสีขาวที่จุกคอ

เมื่อใช้มัน:

1.การจัดเก็บ

เก็บในที่ที่มีการระบายอากาศดีและเย็น อย่าให้ถูกแสงแดดโดยตรง

ตั้งตรงและอย่าเอียง วางในแนวนอน พลิกกลับ กองซ้อน ชนกัน หรือชนกับวัตถุอื่น

2.การขนส่ง

จับมันเบา ๆ เมื่อเคลื่อนย้ายและหลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวกะทันหัน

จะต้องได้รับการแก้ไขระหว่างการขนส่งเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่สั่นไหวระหว่างการขนส่ง

หลังการใช้งาน:

การทำความสะอาด:

1. หลังจากที่ไนโตรเจนเหลวระเหยไปแล้ว ให้พักไว้หลายชั่วโมงจนกระทั่งอุณหภูมิภายในภาชนะกลับสู่อุณหภูมิปกติ

2. เทน้ำอุ่นอุณหภูมิ 40°C-50° ลงในภาชนะ แล้วเช็ดด้วยผ้า

3.ล้างออกด้วยน้ำสะอาด 2-3 ครั้ง

4. กลับภาชนะให้แห้งตามธรรมชาติ คุณสามารถใช้ลมร้อนเพื่อทำให้แห้งก็ได้ อุณหภูมิที่เหมาะสมคือ 40°C-50°C หลีกเลี่ยงอากาศร้อนที่สูงกว่า 60°C

หลังจากทำความสะอาดแล้ว ให้เก็บไว้ในที่แห้งและมีอากาศถ่ายเท และตรวจสอบเป็นประจำเพื่อใช้ครั้งต่อไป