[ใหม่] ตะกรุดไม้ครูหลวงปู่ภู จุกน้ำปลานิยม ตะกรุดที่อัญเชิญเทวดามาสถิตย์
605 สัปดาห์ ที่แล้ว
- สมุทรปราการ - คนดู 560
รายละเอียด
"ไม่มีใครทำได้อย่างกู" เป็นตะกรุดหนึ่งเดียวที่อัญเชิญลุกขเทวดามาสถิตย์ สามารถบนบานสารกล่าวได้ดั่งแก้วสารพัดนึก
บรรจุด้านเดียวเรียกไม้พ่อครู ทรงจุกน้ำปลานิยมสุด ลายขบฟัน ขนาดเล็กน่ารัก ยาว 4 ซม โต 1.5 ซม
1ใน9เครื่องราง ที่ควรหามาติดกาย
"หมากดีที่วัดหนัง ถ้าเบี้ยขลังวัดนายโรง ไม้ครูคู่วัดอินทร์ ส่วนมีดบินวัดหนองโพธิ์ พิสมรวัดพวงมาลัย ครั่งเหลือร้ายวัดโตนดหลวง ราหูคู่วัดศรีษะทอง เเหวนอักขระต้องวัดหนองบัว ลูกเเร่ที่วัดบางไผ่ ฤทธิ์เหลือร้ายหาใดปาน ทุกสิ่งล้วนเป็นมงคล ทั่วทุกคนควรค้นหา ติดกายยามญาตตรา ภัยมิกล้ามาเเพ้วพาน"
.................. ส่วนผงพุทธคุณที่ใช้ในการอุดนั้นมีความเชื่อกันว่ามีผงของสมเด็จพระพุฒา จารย์ (โต พฺรหฺมรํสี)อยู่ด้วย เหตุเพราะท่านเป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดและได้ร่วมเดินธุดงค์รุกขมูลกับท่านเจ้า พระคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์โตอยู่เป็นนิจ.....................
ไม้ครู
พระครูธรรมานุกูล (ภู จันทเกสโร) วัดอินทรวิหาร กทม.
กรรมวิธีสร้างไม้เท้าพ่อครูของลป.ภู วัดอินทรวิหาร
ในกระบวนวัตถุมงคลที่หลวงปู่ภูได้สร้างขึ้น เป็นของที่หายากมาก เพราะท่านสร้างน้อยมากส่วนมากจะแจกเฉพาะศิษย์ใกล้ชิดเท่านั้น
เพราะกรรมวิธีการสร้างยากมาก ผู้สร้างจะต้องเป็นสมณะเท่านั้น
จนท่านเคยพูดว่า"ไม่มีใครทำได้อย่างกู" วิชานี้คนที่มีบุญวาสนาเท่านั้นถึงจะเรียนสำเร็จ
ไม้เท้าพ่อครูเป็นวัตถุอาถรรพณ์ ก่อนที่จะทำจะต้องหาไม้ไผ่สีสุก (บางตำราก็ว่าไม้รวกโขลงช้างข้าม) ที่เห็นว่าถูกฟ้าผ่าล้มและปลายทอดยาวไปทางทิศตะวันออกทั้งกอ และต้องนั่งเฝ้าดูภายใน ๓-๗ วัน ถ้ามีช้างโขลงมาพบก่อไผ่สีสุก แล้วกระโดดข้ามกอไผ่ไปทั้งโขลงถือว่าเป็นนิมิตมหามงคลจึงจะใช้ได้
ก่อนจะตัดต้องประกอบพิธีพลีกรรม บอกกล่าวเทพยดา พระอิศวรเจ้า เจ้าที่เจ้าทาง โดยขอตัดไม้ไผ่ลำที่ทอดยาวไปทางทิศตะวันออก และตัดเอาส่วนปลายเพียง ๓ ปล้องเท่านั้น
ในตำราระบุไว้ว่า ไม้ไผ่ลำนี้เปรียบประดุจไม้ยันพระวรกายของท้าวเวสสุวรรณ เมื่อได้ไม้ไผ่มาแล้ว ท่านก็นำมาจิ้มบนศพที่กล้าแข็ง คือ ศพคนตาย วันเสาร์เผาวันอังคาร ให้ครบ ๗ ศพ จึงเป็นเสร็จพิธี ซึ่งตลอดระยะเวลาในการเดินธุดงค์ของท่านนานถึง ๓๐ ปี จึงทำได้สำเร็จ จากนั้นท่านก็จะนำไม้ท่อนนี้เก็บเอาไว้ มาผ่าให้เป็นแผ่นเล็กๆ เรียกว่า ตอกเตรียมใว้สำหรับลงพระนามที่ได้รับจากเบื้องบน
การทำพิธีลงพระนาม
หลวงปู่ท่านจะมองขึ้นไปบนท้องฟ้าครั้งละนานๆ บางครั้งก็ไม่นาน
เคยมีคนถามหลวงปู่ภูว่า หลวงปู่มองขึ้นฟ้าทำไม ท่านตอบว่ากูรอพระนามจากเบื้องบน เมื่อได้พระนามจากเบื้องบนมาเเล้ว ท่านก็จะทำการบรรจุไม้พระนามเข้าไปในไม้ที่เจาะเตรียมเอาไว้ บางอันอาจจะบรรจุกระดูกแร้งลงไปด้วย อุดด้วยชันโรงใต้ดิน (ขี้สูตรดินราบ) แล้วตอกด้วยลิ่มไม้ปิดเอาไว้ เเล้วลงอักขระทับอีกทีเป็นอันเสร็จพิธี
ส่วนมากไม้ที่จะทำไม้เท้าพ่อครูก็มีไม้รักซ้อน ไม้พยุง บางคนก็นำไม้ชนิดอื่นมาให้ท่านทำก็มี เมื่อได้ไม้มาแล้วก็เจาะรูเตรียมบรรจุไว้ ถ้าบรรจุด้านเดียวเรียกว่า “ไม้พ่อครู” ถ้าบรรจุสองด้านเรียกว่า “นิ้วเพชรพระอิศวร (ชี้ต้นตายปลายเป็น)”
กล่าวกันว่าถ้าใครอยากได้ไม้เท้าพ่อครูจะต้องขอท่านก่อนวันเสาร์ล่วงหน้า หนึ่งวัน ถ้าท่านรับปาก ในวันเสาร์ตอนเช้าผู้ที่มาขอจะต้องจัดเตรียมหัวหมู บายศรีปากชาม มะพร้าวอ่อนกล้วย ขนมต้มแดง ต้มขาว ใส่ถาดไปทำพิธี
แล้วเอาไม้ตะพดเจาะรูหัวท้าย หรือหัวเดียวก็ได้ไปถวายท่าน
ท่านก็จะประกอบพิธีบรรจุไม้เท้าพ่อครูพร้อมกับอุดด้วยชันนะโรงใต้ดิน และจักตอกนำมาลงอักขระบรรจุเข้าไปที่เจาะรูไว้
หลังจากที่หลวงปู่ทำไม้ครูเสร็จ ก็สุดเเท้เเต่ผู้ที่ได้จะนำเก็บรักษาอย่างไร........จะไปถักเชือก ถักลวด หรือ ไม่ถักอะไรเลย
ศิษย์ใกล้ชิดได้กล่าวว่า บางเสาร์จะมีหัวหมูเครื่องบายศรีถึง ๙ หัวด้วยกัน แสดงว่าวันนั้นท่านทำถึง ๙ อัน
การบรรจุไม้เท้า ถ้าข้างเดียวหรือสองข้างก็เรียกว่า ไม้เท้าพ่อครู
แต่มีบางท่านเรียก นิ้วชี้พระอิศวร หรือ ต้นตายปลายเป็น
เมื่อท่านกระทำให้ผู้ใดก็ตาม ท่านจะกำชับหนักหนา ห้ามเอาไปตีใครเป็นอันขาด เพราะจะทำให้ผู้ที่ถูกตีถึงกับเสียจริต (บ้า) รักษาไม่หาย
นอกจากจะโดนกลั่นแกล้งถึงกับน้ำตาเป็นสายเลือด หมายถึง สุดที่จะอดกลั้นได้
อิทธิฤทธิ์ของไม้เท้าพ่อครู บางท่านเชื่อว่าหลวงปู่ได้ประจุเทพ คือ เทวดาลงไว้ในไม้นั้น
ใช้ เฝ้าบ้านได้ และใช้ป้องกันตัวในเวลาคับขัน บูชาอยู่กับบ้านป้องกันโจรผู้ร้ายคุณไสย และภูตผี ปีศาจ ไม่กล้ากล้ำกรายมารบกวน พุทธคุณครอบจักรวาล
ตะกรุดไม้ครูของท่านสามารถบนได้
วิธีบน คือ ทุก วันเสาร์หรือวันอังคารให้นำเอาหมูนอนตอง (หมูสามชั้นต้มพอสุกวางบนใบตอง) วางเลยชายคาบ้านแล้วบนเอาเถิด เทวดาที่รักษาตัวตะกรุดก็จะออกมา
หากสำเร็จดังที่บนไว้ก็ขอให้ทำอย่างที่บนไว้ อุทิศส่วนกุศลให้กับหลวงปู่ภู ให้รุกขเทวดาที่รักษาตัวตะกรุด และผู้ร่วมสร้าง
คาถาปลุกไม้พ่อครู
โอม ปลุกปลุก ลุกลุก กูจะปลุกพ่อครู นิ้วเพชรพระอิศวร
กระบองยันกายท้าวเวสสุวรรณ ไม้โขลงช้างข้าม ปีศาจพ่อครู
โอม ปลุกมหาปลุก กูจะปลุกไม้เท้าพ่อครู หลวงปู่ภูประสิทธิ์ให้กูสวาหะ
คาถาบุชา
ให้ว่านะโม 3 จบ แล้วระลึกถึงหลวงปู่ภูแล้วท่องคาถาล้อม ว่าดังนี้
“ ฆะะเตสิ ฆะเตสิ กิงกะระณัง ฆะเตสิ อะหังปิตัง ชานามิ ชานามิ
สี่คนเดินหน้า ห้าคนเดินหลัง โอมกะรัง กะรัง ”
เดินภาวนาไปเรื่อยๆ ปลอดภัยทุกประการ
บรรจุด้านเดียวเรียกไม้พ่อครู ทรงจุกน้ำปลานิยมสุด ลายขบฟัน ขนาดเล็กน่ารัก ยาว 4 ซม โต 1.5 ซม
1ใน9เครื่องราง ที่ควรหามาติดกาย
"หมากดีที่วัดหนัง ถ้าเบี้ยขลังวัดนายโรง ไม้ครูคู่วัดอินทร์ ส่วนมีดบินวัดหนองโพธิ์ พิสมรวัดพวงมาลัย ครั่งเหลือร้ายวัดโตนดหลวง ราหูคู่วัดศรีษะทอง เเหวนอักขระต้องวัดหนองบัว ลูกเเร่ที่วัดบางไผ่ ฤทธิ์เหลือร้ายหาใดปาน ทุกสิ่งล้วนเป็นมงคล ทั่วทุกคนควรค้นหา ติดกายยามญาตตรา ภัยมิกล้ามาเเพ้วพาน"
.................. ส่วนผงพุทธคุณที่ใช้ในการอุดนั้นมีความเชื่อกันว่ามีผงของสมเด็จพระพุฒา จารย์ (โต พฺรหฺมรํสี)อยู่ด้วย เหตุเพราะท่านเป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดและได้ร่วมเดินธุดงค์รุกขมูลกับท่านเจ้า พระคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์โตอยู่เป็นนิจ.....................
ไม้ครู
พระครูธรรมานุกูล (ภู จันทเกสโร) วัดอินทรวิหาร กทม.
กรรมวิธีสร้างไม้เท้าพ่อครูของลป.ภู วัดอินทรวิหาร
ในกระบวนวัตถุมงคลที่หลวงปู่ภูได้สร้างขึ้น เป็นของที่หายากมาก เพราะท่านสร้างน้อยมากส่วนมากจะแจกเฉพาะศิษย์ใกล้ชิดเท่านั้น
เพราะกรรมวิธีการสร้างยากมาก ผู้สร้างจะต้องเป็นสมณะเท่านั้น
จนท่านเคยพูดว่า"ไม่มีใครทำได้อย่างกู" วิชานี้คนที่มีบุญวาสนาเท่านั้นถึงจะเรียนสำเร็จ
ไม้เท้าพ่อครูเป็นวัตถุอาถรรพณ์ ก่อนที่จะทำจะต้องหาไม้ไผ่สีสุก (บางตำราก็ว่าไม้รวกโขลงช้างข้าม) ที่เห็นว่าถูกฟ้าผ่าล้มและปลายทอดยาวไปทางทิศตะวันออกทั้งกอ และต้องนั่งเฝ้าดูภายใน ๓-๗ วัน ถ้ามีช้างโขลงมาพบก่อไผ่สีสุก แล้วกระโดดข้ามกอไผ่ไปทั้งโขลงถือว่าเป็นนิมิตมหามงคลจึงจะใช้ได้
ก่อนจะตัดต้องประกอบพิธีพลีกรรม บอกกล่าวเทพยดา พระอิศวรเจ้า เจ้าที่เจ้าทาง โดยขอตัดไม้ไผ่ลำที่ทอดยาวไปทางทิศตะวันออก และตัดเอาส่วนปลายเพียง ๓ ปล้องเท่านั้น
ในตำราระบุไว้ว่า ไม้ไผ่ลำนี้เปรียบประดุจไม้ยันพระวรกายของท้าวเวสสุวรรณ เมื่อได้ไม้ไผ่มาแล้ว ท่านก็นำมาจิ้มบนศพที่กล้าแข็ง คือ ศพคนตาย วันเสาร์เผาวันอังคาร ให้ครบ ๗ ศพ จึงเป็นเสร็จพิธี ซึ่งตลอดระยะเวลาในการเดินธุดงค์ของท่านนานถึง ๓๐ ปี จึงทำได้สำเร็จ จากนั้นท่านก็จะนำไม้ท่อนนี้เก็บเอาไว้ มาผ่าให้เป็นแผ่นเล็กๆ เรียกว่า ตอกเตรียมใว้สำหรับลงพระนามที่ได้รับจากเบื้องบน
การทำพิธีลงพระนาม
หลวงปู่ท่านจะมองขึ้นไปบนท้องฟ้าครั้งละนานๆ บางครั้งก็ไม่นาน
เคยมีคนถามหลวงปู่ภูว่า หลวงปู่มองขึ้นฟ้าทำไม ท่านตอบว่ากูรอพระนามจากเบื้องบน เมื่อได้พระนามจากเบื้องบนมาเเล้ว ท่านก็จะทำการบรรจุไม้พระนามเข้าไปในไม้ที่เจาะเตรียมเอาไว้ บางอันอาจจะบรรจุกระดูกแร้งลงไปด้วย อุดด้วยชันโรงใต้ดิน (ขี้สูตรดินราบ) แล้วตอกด้วยลิ่มไม้ปิดเอาไว้ เเล้วลงอักขระทับอีกทีเป็นอันเสร็จพิธี
ส่วนมากไม้ที่จะทำไม้เท้าพ่อครูก็มีไม้รักซ้อน ไม้พยุง บางคนก็นำไม้ชนิดอื่นมาให้ท่านทำก็มี เมื่อได้ไม้มาแล้วก็เจาะรูเตรียมบรรจุไว้ ถ้าบรรจุด้านเดียวเรียกว่า “ไม้พ่อครู” ถ้าบรรจุสองด้านเรียกว่า “นิ้วเพชรพระอิศวร (ชี้ต้นตายปลายเป็น)”
กล่าวกันว่าถ้าใครอยากได้ไม้เท้าพ่อครูจะต้องขอท่านก่อนวันเสาร์ล่วงหน้า หนึ่งวัน ถ้าท่านรับปาก ในวันเสาร์ตอนเช้าผู้ที่มาขอจะต้องจัดเตรียมหัวหมู บายศรีปากชาม มะพร้าวอ่อนกล้วย ขนมต้มแดง ต้มขาว ใส่ถาดไปทำพิธี
แล้วเอาไม้ตะพดเจาะรูหัวท้าย หรือหัวเดียวก็ได้ไปถวายท่าน
ท่านก็จะประกอบพิธีบรรจุไม้เท้าพ่อครูพร้อมกับอุดด้วยชันนะโรงใต้ดิน และจักตอกนำมาลงอักขระบรรจุเข้าไปที่เจาะรูไว้
หลังจากที่หลวงปู่ทำไม้ครูเสร็จ ก็สุดเเท้เเต่ผู้ที่ได้จะนำเก็บรักษาอย่างไร........จะไปถักเชือก ถักลวด หรือ ไม่ถักอะไรเลย
ศิษย์ใกล้ชิดได้กล่าวว่า บางเสาร์จะมีหัวหมูเครื่องบายศรีถึง ๙ หัวด้วยกัน แสดงว่าวันนั้นท่านทำถึง ๙ อัน
การบรรจุไม้เท้า ถ้าข้างเดียวหรือสองข้างก็เรียกว่า ไม้เท้าพ่อครู
แต่มีบางท่านเรียก นิ้วชี้พระอิศวร หรือ ต้นตายปลายเป็น
เมื่อท่านกระทำให้ผู้ใดก็ตาม ท่านจะกำชับหนักหนา ห้ามเอาไปตีใครเป็นอันขาด เพราะจะทำให้ผู้ที่ถูกตีถึงกับเสียจริต (บ้า) รักษาไม่หาย
นอกจากจะโดนกลั่นแกล้งถึงกับน้ำตาเป็นสายเลือด หมายถึง สุดที่จะอดกลั้นได้
อิทธิฤทธิ์ของไม้เท้าพ่อครู บางท่านเชื่อว่าหลวงปู่ได้ประจุเทพ คือ เทวดาลงไว้ในไม้นั้น
ใช้ เฝ้าบ้านได้ และใช้ป้องกันตัวในเวลาคับขัน บูชาอยู่กับบ้านป้องกันโจรผู้ร้ายคุณไสย และภูตผี ปีศาจ ไม่กล้ากล้ำกรายมารบกวน พุทธคุณครอบจักรวาล
ตะกรุดไม้ครูของท่านสามารถบนได้
วิธีบน คือ ทุก วันเสาร์หรือวันอังคารให้นำเอาหมูนอนตอง (หมูสามชั้นต้มพอสุกวางบนใบตอง) วางเลยชายคาบ้านแล้วบนเอาเถิด เทวดาที่รักษาตัวตะกรุดก็จะออกมา
หากสำเร็จดังที่บนไว้ก็ขอให้ทำอย่างที่บนไว้ อุทิศส่วนกุศลให้กับหลวงปู่ภู ให้รุกขเทวดาที่รักษาตัวตะกรุด และผู้ร่วมสร้าง
คาถาปลุกไม้พ่อครู
โอม ปลุกปลุก ลุกลุก กูจะปลุกพ่อครู นิ้วเพชรพระอิศวร
กระบองยันกายท้าวเวสสุวรรณ ไม้โขลงช้างข้าม ปีศาจพ่อครู
โอม ปลุกมหาปลุก กูจะปลุกไม้เท้าพ่อครู หลวงปู่ภูประสิทธิ์ให้กูสวาหะ
คาถาบุชา
ให้ว่านะโม 3 จบ แล้วระลึกถึงหลวงปู่ภูแล้วท่องคาถาล้อม ว่าดังนี้
“ ฆะะเตสิ ฆะเตสิ กิงกะระณัง ฆะเตสิ อะหังปิตัง ชานามิ ชานามิ
สี่คนเดินหน้า ห้าคนเดินหลัง โอมกะรัง กะรัง ”
เดินภาวนาไปเรื่อยๆ ปลอดภัยทุกประการ