[ใหม่] ปุ๋ยมูลค้างคาว ตรา เขาเพชร สูตร 6-3-3

593 สัปดาห์ ที่แล้ว - กรุงเทพมหานคร - คนดู 307
รายละเอียด

ปุ๋ยมูลค้างคาว ตรา เขาเพชร สูตร 6-3-3                                                                                               

เหมาะสำหรับพืชทุกชนิด (คุณภาพยอดเยี่ยม)

                                                                       กระสอบละ 25 กิโลกรัม 

                                                                          1 กระสอบ ต่อ 1 ไร่

(สนใจรับตัวแทนจำหน่ายในราคาส่ง)

คุณสมบัติ

-มูลค้างคาวพันธุ์ที่กินแมลงเป็นอาหาร (แร่ธาตุครบ)

ธาตุอาหารหลัก (ไนโตรเจน ฟอสเฟต โปรแทสเซี่ยม )

ธาตุอาหารรอง  (แคลเซี่ยม แมกนีเซี่ยม กำมะถัน )

ธาตุอาหารเสริม (เหล็ก ซิลิคอน สังกะสี โบรอน โมลิบดินัม )

กรดฮิวมิก

- จุลินทรีย์ ชนิดทนความร้อน (นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา) ถูกแดดโดยไม่เสื่อมสภาพและมีส่วนผสมอื่นๆอีก (ขอรายละเอียดได้)

 ผลการเปรียบเทียบมูลสัตว์ต่างๆกับมูลค้างคาว

มูลค้างคาวมีไนโตรเจน (N) มากกว่ามูลสัตว์อื่นๆประมาณ 20 เท่า

มูลค้างคาวมีฟอสฟอรัส (P) มากกว่ามูลสัตว์อื่นๆ ประมาณ 130 เท่า

มูลค้างคาวมีโพเทสเซียม (K) มากกว่ามูลสัตว์อื่นๆ ประมาณ 4 เท่า

 หมายเหตุ 

ไนโตรเจน (N) ช่วยให้พืชเจริญเติบโตดี ลำต้นและใบแข็งแรง

ฟอสฟอรัส (P) ช่วยให้พืชแข็งแรงทั้งส่วนราก ลำต้น ใบ ออกดอก ออกผล

โพแทสเซียม (K) ทำให้ผนังเซลล์ของพืชหนาขึ้น

 ส่วนประกอบสำคัญในการผลิตปุ๋ย

1.             วัตถุดิบมูลค้างคาว

มูลค้างคาวจำนวนมหาศาลที่บริษัทฯได้รับสัมปทานถ้ำค้างคาวนั้น สามารถนำมาผลิตปุ๋ยที่มีคุณภาพได้อย่างต่อเนื่องเพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งคุณสมบัติพิเศษของมูลค้างคาวเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่ามีประโยชน์ต่อพืชมากมาย อุดมไปด้วยธาตุอาหารครบตามที่พืชต้องการ และพืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างสมบูรณ์

2.             สารอาหารนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น

เป็นวัตถุดิบชั้นเยี่ยมอีกชนิดหนึ่งที่มีคุณค่าต่อการเจริญเติบโตของพืชเป็นอย่างมาก ซึ่งทางบริษัทฯได้นำมาเป็นส่วนผสมในการผลิตปุ๋ยด้วยเช่นกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเป็นเท่าทวีคูณ เพราะสารอาหารดังกล่าวมีธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรอง และธาตุอาหารเสริม รวมทั้งฮิวมัส ฮิวมิค อะมิโน สารอาหารชนิดนี้เป็นเคมีธรรมชาติ ที่เป็นผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตอาหารของประเทศญี่ปุ่น รัฐบาลไม่ได้ตีค่าเป็นเคมี แต่ด้วยคุณค่านั้นเหนือกว่าเคมีนำเข้าโดยทั่วไป การปลดปล่อยต่างกัน ให้คุณค่าที่สูงกว่า พืชจึงสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ดีกว่า

3.             จุลินทรีย์สายพันธุ์พิเศษนำเข้าจากประเทศอิสราเอล

เป็นอีกส่วนผสมหนึ่งที่ใช้ในกระบวนการผลิตปุ๋ยของทางบริษัทฯ จุลินทรีย์สายพันธุ์นี้ มีคุณสมบัติพิเศษหลายประการ สามารถทำลายเชื้อโรคซึ่งเป็นสาเหตุของรากเน่า โคนเน่า ในพืชทุกชนิด ช่วยพัฒนาระบบราก ปรับสภาพดินที่เสียให้ร่วนซุย ปรับค่า PH ของดินให้เหมาะสม

คุณสมบัติมูลค้างคาว

     มูลค้างคาวที่สะสมกันในถ้ำเป็นเวลานานจนสลายตัวกลายเป็นปุ๋ย ให้ธาตุทั้งในโตรเจน ฟอสฟอรัสและโฟแทสเซียม

    1. มีปริมาณความเข้มข้นของธาตุอาหารพืชสูงทัดเทียมกับปุ๋ยเคมี หรือปุ๋ยวิทยาศาสตร์

    2. ผลของการใช้ปุ๋ยมูลค้างคาว ทำให้ดินร่วนไม่เกาะกันแน่น เมื่อแข็งตัว ความเป็นกรด-ด่างของดินอยู่ในระดับที่พอเหมาะกับความเจริญเติบโตของพืช

    3. การใช้มูลค้างคาว ทำให้เชื้อแบคทีเรียในดินทำการย้อยสลายอินทรีย์สารเปลี่ยนเป็นธาตุอาหารพืชได้ง่ายขึ้น

    4. มูลค้างคาวให้ธาตุอาหารเสริมของพืช ได้แก่ แมกนีเซียม กำมะถัน เหล็ก แมงกานีส สังกะสี ทองแดง โบรอน และโมดินเลนั่ม อย่างพอเพียงกับความต้องการของพืช

    5. การใช้ปุ๋ยมูลค้างคาวอย่างสม่ำเสมอติดต่อกันจะทำให้ผลตกค้างของปุ๋ย เคมีในดินค่อยๆสลายเป็นอาหารพืช และดินกลับสมบูรณ์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

    6. มูลค้างคาวเป็นมูลสัตว์ที่ให้ธาตุอาหาร ฟอสฟอรัส เหมาะสำหรับไม้ผลที่ให้กลิ่นหอม เช่นทุเรียน ลิ้นจี่ กล้วยหอม ลำไย และมะม่วงได้ดีอีกด้วย

 อัตราและวิธีการใช้

ชนิดพืช :    นาข้าว

ระยะที่ใช้ :  ระยะแรก15 – 30 วัน   อัตราการใช้:  40 – 80 กก.ต่อไร่   วิธีการใช้:  หว่านทั่วแปลง

ระยะที่ใช้ :  ระยะแรก 50 – 60 วัน   อัตราการใช้:  40 – 80 กก.ต่อไร่   วิธีการใช้:  หว่านทั่วแปลง

ชนิดพืช :    ข้าวโพด

ระยะที่ใช้ :  ระยะพร้อมปลูก   อัตราการใช้:  50 – 100 กก.ต่อไร่   วิธีการใช้:  โรยรองก้นหลุมพร้อมปลูก

ระยะที่ใช้ :  ระยะแรก20 – 25 วัน   อัตราการใช้:  30 – 40 กก.ต่อไร่   วิธีการใช้:  โรยตามแนวข้าวโพด

ชนิดพืช :    ส้ม มะนาว มะม่วง เงาะ ทุเรียน มังคุด ลำไย ลิ้นจี่ ลองกอง ฝรั่ง ชมพู่ องุ่น ปาล์ม

ระยะที่ใช้ :  มีผลแล้ว   อัตราการใช้:  3 – 5 กก.ต่อต้น /ครั้ง   วิธีการใช้:  หว่านรอบทรงพุ่ม

ระยะที่ใช้ :  ยังไม่มีผล   อัตราการใช้:  2 – 3 กก.ต่อต้น /ครั้ง   วิธีการใช้:  หว่านรอบทรงพุ่ม

ชนิดพืช :    ยางพารา

ระยะที่ใช้ : กรีดยางแล้วใส่ปุ๋ยต้นฝน, ปลายฝน   อัตราการใช้:  1–2 กก.ต่อต้น /ครั้ง วิธีการใช้: โรยขนานแถว

ระยะที่ใช้ :  ยางเล็กก่อนกรีดใส่ปุ๋ยต้นฝน, ปลายฝน อัตราการใช้:  0.5 กก.ต่อต้น /ครั้งวิธีการใช้ โรยขนานแถว

ชนิดพืช :    อ้อย มัน สับปะรด

ระยะที่ใช้ :  ใช้รองพื้นก่อนปลูก   อัตราการใช้:  50 – 100 กก.ต่อไร่   วิธีการใช้:  โรยในร่องแล้วกลบ

ระยะที่ใช้ :  พืชอายุ 1 – 2 เดือน   อัตราการใช้:  50 – 100 กก.ต่อไร่   วิธีการใช้:  โรยข้างแถว

ชนิดพืช :    พริก หอม กระเทียม แตง ถั่ว สตอเบอรี่

ระยะที่ใช้ :  ใช้รองพื้นระยะให้ผล   อัตราการใช้:  50 – 100 กก.ต่อไร่   วิธีการใช้:  หว่านทั่วแปลง

ชนิดพืช :    ผักทุกชนิด ยาสูบ

ระยะที่ใช้ :  ใช้รองพื้น   อัตราการใช้:  50 – 100 กก.ต่อไร่   วิธีการใช้:  หว่านทั่วแปลง

 เทคนิคการเพิ่มผลผลิตในนาข้าว