[มือสอง] ปฐวีธาตุของท่านเจ้าคุณนรและปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันธ์
659 สัปดาห์ ที่แล้ว
- กรุงเทพมหานคร - คนดู 389
รายละเอียด
ปฐวีธาตุของท่านเจ้าคุณนรและปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันธ์
ปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันธ์ เสกก่อนท่านมรณะภาพ
มีแค่ 1 เม็ด ที่สำคัญ คล้ายรูปหัวใจ หาไม่ได้อีกแล้ว
มอบให้คนที่เรารัก ทั้งกันนิวเคลีย และ กันอาถรรณ์ต่างๆ
เป็นสิริมงคลกับผู้ใช้
ต่อไปนี้ขอกล่างเล่าเรื่องปฐวีธาตุของเจ้าคุณนรเป็นเรื่องประกอบถึงความอัศจรรย์
เรื่องนี้เกิดขึ้นกับคุณณัฐชัยเมื่อสิบกว่าปีมาแล้ว ในสมัยคุณณัฐชัยประสบแต่วิบากกรรม ไม่ว่าจะทำอะไรก็ขาดทุนไปหมด จนเกือบจะหมดทุนอยู่แล้วจะเหลียวหน้าไปหาใครก็ไม่มี จะหันหน้าไปพึ่งใครก็ไม่เห็น
เผอิญเงยหน้าไปมองรูปถ่ายของท่านเจ้าคุณนรฯ ที่ตั้งไว้บนที่สูง คุณณัฐชัยซึ่งหมดหนทางแล้วก็จุดธูปสามดอกปักที่กระถางธูป แล้วกราบด้วยเบญจางคประดิษฐ์บอกกล่าวว่าเจ้าคุณนรฯว่า ตนกำลังอับจนข้นแค้น ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร ทำมาหากินก็ขาดทุนย่อยยับ ขอให้เจ้าคุณนรฯ โปรดเป็นที่พึ่งชี้หนทางสว่างให้พ้นจากความมืดมิดในครั้งนี้ด้วยเทอญฯ
กราบเจ้าคุณนรฯ เสร็จ ด้วยความอ่อนใจในโชคชะตาของตน คุณณัฐชัยก็เอนตัวลงนอนบนเตียงหมดเรี่ยวแรง
พอเคลิ้มไปได้หน่อยเดียว ก็ปรากฏมีพระรูปหนึ่งยิ้มอยู่บนเหนือศีรษะถามว่า "มีทุกข์อะไรหรือ"
ในฝันหรือช่วงครึ่งหลับครึ่งตื่นนั้น คุณณัฐชัย รีบลุกขึ้นนั่งพับเพียบกราบลงไปแทบเท้าของท่าน แล้วเล่าถึงความทุกข์ยากของตนให้ท่านฟัง แล้วขอให้ท่านช่วยโปรดด้วยเถิด พระรูปนั้น หรือที่แท้จริงคือ เจ้าคุณนรฯได้บอกแต่เพียงว่า
"ทำไมมีของดีแล้วไม่รู้จักใช้ ก็ก้อนกรวดหรือปฐวีธาตุที่มีอยู่นั่นไง"
เมื่อเล่ามาถึงตอนนี้ คุณณัฐชัยก็แหวกหน้าอกเสื้อควักก้อนกรวดขนาดปลายนิ้วก้อยหุ้มด้วยพลาสติกสี่เหลือง เลี่ยมทองจับขอบ ออกมาให้ผู้เขียนชมบอกว่า "นับแต่วันที่ผมนำปฐวีธาตุของท่านเจ้าคุณนรฯแขวนติดตัว ก็ค่อยกระเตื้องขึ้นจนพอมีกินมีใช้ในทุกวันนี้แหละครับ"
อันก้อนกรวดที่ว่านี้ กล่าวกันว่าเป็นวัตถุมงคลที่ท่านเจ้าคุณนรฯ ทำการปลุกเสกเพื่อต้องการมอบให้คุณโกศล ปัทมะสุนทร หลานชายของท่านซึ่งเป็นบุตรของนางเลื่อนน้องสาวของท่านเอง ทั้งนี้เนื่องจากคุณโกศล เคยเอ่ยปากขอของดีจากท่าน แต่ท่านไม่มีให้ แต่ก่อนที่จะมรณภาพเพียง 6 วัน ท่านได้บอกแก่คุณโกศลว่า ถ้าอยากได้ของดีให้ไปเก็บก้อนกรวดที่อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการมาท่านจะเสกให้
แต่คุณโกศลสงสัยก็ถามว่า ถ้าที่บางบ่อไม่มี จะไปเอาที่ชลบุรีหรือสมุทรสงครามได้ไหม ท่านก็บอกว่าไม่ได้ ต้องที่บางบ่อเท่านั้น เพราะชื่อเป็นสิริมงคล เป็นบ่อเงิน บ่อทอง และจังหวัดสมุทรปราการก็เป็นชื่อที่ไพเราะ
คุณโกศลก็รีบไปหาก้อนกรวดนำไปให้ท่านปลุกเสกครั้งแรกเก้าก้อน ซึ่งท่านเจ้าคุณนรฯ ใช้เวลาปลุกเสก 15 นาที ก็ส่งให้คุณโกศลให้นำไปแจกลูกหลานห้อยคอ ทั้งบอกให้คุณโกศลไปเอาก้อนกรวดจากบางบ่อมาให้ท่านปลุกเสกอีก คราวนี้มีผู้ทราบเรื่องเป็นจำนวนมากก็พากันไปขอก้อนกรวดจากคุณโกศล จนท่านเจ้าคุณนรฯ ทำการปลุกเสกให้คุณโกศลที่นำก้อนกรวดมาถวายเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2514 ซึ่งเป็นของดี ชุดสุดท้ายจริงๆ
พอรุ่งขึ้น ท่านเจ้าคุณนรฯ ก็มรณภาพ
ปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันธ์ ท่านบอกกล่าวกับศิษย์ว่า หลวงปู่ตั้งให้ไว้เป็นองค์พระ เป็นของวิเศษ ที่จะคุ้มครองคุ้มภัยกับผู้ที่มีไว้บูชา ให้หมั่นอาราธนาและสวดพระคาถาชินบัญชรอยู่เป็นนิตย์ ผู้ที่ปฏิบัติดี จะสามารถสื่อถึงความศักดิ์สิทธิ์แห่งองค์ปฐวีธาตุได้ง่าย
ทั้งนี้หลวงปู่คำพันธ์ท่านได้ให้ชื่อปฐวีธาตุของท่านว่า "พระเพชร" เพราะเสกหนุนธาตุต่างๆ ให้เป็นองค์พระ และธาตุปฐวี คือ ธาตุหินนี้แกร่ง ท่านจึงเรียกว่า "พระเพชร" อันเป็นที่มาแห่งปฐวีธาตุเพชรธาตุแห่งแม่น้ำโขง
ปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันธ์ และ ปฐวีธาตุของท่านเจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต มีความเหมือนกันหลายอย่าง คือ หลวงปู่คำพันธ์เสกและตั้งเป็นองค์พระ ท่านเรียก "พระเพชร" ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ท่านก็เสกและตั้งเป็นองค์พระเช่นเดียวกัน ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ เรียกปฐวีธาตุของท่านว่า "พระแม่ธรณี"
ความสำคัญที่คล้ายคลึงกันของปฐวีธาตุทั้งสององค์ท่านอีกอย่างหนึ่งนั้นคือ พุทธมนต์ และพระคาถา ที่ใช้ในการอธิษฐานจิตลงสู่ปฐวีธาตุของทั้งสองท่าน ใช้พระคาถาชินบัญชร เป็นตัวบทกำกับในการตั้งเป็นองค์พระลงสู่ปฐวีธาตุของทั้งสองท่าน
ความสำคัญที่คล้ายคลึงกันของปฐวีธาตุทั้งสององค์ท่านอีกอย่างหนึ่งนั้นคือ พุทธมนต์ และพระคาถา ที่ใช้ในการอธิษฐานจิตลงสู่ปฐวีธาตุของทั้งสองท่าน ใช้พระคาถาชินบัญชร เป็นตัวบทกำกับในการตั้งเป็นองค์พระลงสู่ปฐวีธาตุของทั้งสองท่าน
ส่วนความศักดิ์สิทธิ์และพุทธคุณของปฐวีธาตุ หลวงปู่คำพันธ์แห่งวัดธาตุมหาชัย ท่านกล่าวกับลูกศิษย์ว่า คุ้มครอง คุ้มภัย กันฟ้า กันไฟ ปฐวีธาตุแห่งแม่น้ำโขงนี้เป็นธาตุที่เย็น อานุภาพแห่งองค์พระเพชร สามารถป้องกันภัยที่เกิดจากรังสีของความร้อนที่จะเกิดขึ้นอย่างฉับพลันได้
ในขณะที่ปฐวีธาตุของท่านเจ้าคุณนรรัตน์นั้น เมื่อท่านได้อธิษฐานจิตเสร็จ ท่านได้มอบให้ลูกศิษย์ไว้ แล้วท่านได้กล่าวกับศิษย์ว่า พระแม่ธรณีนี้วิเศษนักหนา ท่านได้อธิษฐานให้เป็นของวิเศษ ให้เป็นพระแม่ธรณี เพราะพระแม่ธรณีมีคุณอันอเนกอนันต์ เปรียบดังคุณแห่งมารดา ที่รักลูกจนหาที่สุดมิได้
ท่านกล่าวกับศิษย์ว่า รักษาไว้ให้ดี กันฟ้า กันไฟ ได้นะ กันรังสีของนิวเคลียร์ได้ด้วย ซึ่งปฐวีธาตุของท่านเจ้าคุณนรรัตน์มีจำนวนน้อยมาก เพราะท่านทำไว้ก่อนท่านจะมรณภาพเพียงไม่นาน คือ ช่วงวาระสุดท้ายของสังขารท่าน
ส่วนท่านที่สนใจโทรสอบถามคุณธนวัฒน์ 0851321220