[ใหม่] จำหน่าย Tea Tree Anti-thinning Scalp Care แชมพู ครีมนวด และ โทนิคใส่ผม ของ Paul Mitchell และ ออกแบบทรงผม โดยร้าน ร้านทำผม Hair & Beauty by ICT
157 สัปดาห์ ที่แล้ว
- กรุงเทพมหานคร - เขตพระนคร - คนดู 7
รายละเอียด
จำหน่าย Tea Tree Anti-thinning Scalp Care แชมพู ครีมนวด และ โทนิคใส่ผม ของ Paul Mitchell และ ออกแบบทรงผม โดยร้าน ร้านทำผม Hair & Beauty by ICT
www.facebook.com/hairandbeautybyict
https://www.hairandbeautybyict.com/products/85-0-0-0-0--0-TEA_TREE_SCALP_CARE
ดูแลหนังศีรษะ ทำไมถึงสำคัญเท่าดูแลผิวหนัง? และเกี่ยวอะไรกับผมร่วง?
ที่มา : https://aedit.com/aedition/scalp-care-for-healthy-hair
ช่วงนี้เราจะเห็นผลิตภัณฑ์ ดูแลหนังศีรษะ (Scalp Care) วางขายเต็มไปหมดเลย และถ้าจะถามว่า หนังศีรษะสำคัญไหม? ตอบง่ายๆสั้นๆเลยค่ะว่า “มาก!” เรามาดูกันเลยค่ะ ว่า ผู้เชี่ยวชาญมีความเห็นยังไงกับการดูแลหนังศีรษะบ้าง
ถ้าจะให้พูดว่าการ ดูแลหนังศีรษะ หรือ Scalp Care สำคัญพอๆกับการดูแลผิวหนัง Skin Care ไม่ได้เป็นการพูดเกินความจริงเลยค่ะ โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สังเกตได้ว่า สินค้าความงามยี่ห้อทั้งที่เกี่ยวกับเส้นผมและที่เกี่ยวกับผิวหนัง ต่างรีบออกผลิตภัณฑ์ดูแลหนังศีรษะมาแข่งกัน เพราะพวกเขาได้รู้ความจริงว่าผิวหนังที่ศีรษะ สำคัญพอๆกับผิวหนังส่วนอื่นค่ะ และควรได้รับการดูแล เท่าเทียมกัน!
ถึงจุดๆนี้ ท่ายผู้อ่านอาจจะสงสัยว่า แล้ว…แชมพูครีมนวดที่ใช้อยู่ปัจจุบันนั้นเพียงพอไหม ไม่ต้องห่วงค่ะ เราได้ถามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญมาแล้ว ตามอ่านกันได้เลยค่ะ
ทำไมการ ดูแลหนังศีรษะ ถึงสำคัญ ?
สุขภาพของหนังศีรษะมีความสัมพันธ์โดยตรงกับสุขภาพของเส้นผมค่ะ นายแพทย์ศัลยกรรมพลาสติก Dr. Benjamin Paul,MD จากคลินิค HairCareMD ที่นิวยอร์ก ได้บอกว่า หนังศีรษะเปรียบเสมือนดินที่ให้พืชหรือเส้นผมงอกขึ้นมา โดยหนังศีรษะเป็นส่วนเดียวกันกับหนังหน้า แต่หนากว่า และมีรูขุมขนกว่า 100,000 รู
การวิจัยได้ค้นพบว่า หนังศีรษะแก่ตัวเร็วกว่าหนังบนหน้าและลำตัว มากถึง 6 เท่า เนื่องจากต้องทนรับแสงแดดและมลภาวะมากกว่าผิวหนังที่ส่วนอื่นๆ ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ เช่น ผมร่วง ผมบาง รังแค หนังศีรษะมัน เป็นต้น
ซึ่งเป็นปัญหาที่เราไม่อยากพบเจอกัน
นอกจากนี้นะคะ การที่ไม่ ดูแลหนังศีรษะ จะทำให้หนังศีรษะแห้ง เกิดรังแค ทำให้เราเข้าไปเกาๆ จนทำให้เกิดแผลบริเวณรูขุมขนได้ ผมที่ร่วงออกไป ก็จะไม่งอกใหม่เพราะรูขุมขนโดนทำลายไปแล้ว หรืองอกมาใหม่ก็ไม่แข็งแรงไม่หนาเท่าเมื่อก่อน
วิธีการดูแลหนังศีรษะ
เช่นเดียวกับผิวหนังส่วนอื่นๆของคุณ คุณควรเริ่มดูแลหนังศีรษะให้เร็วที่สุด ป้องกันไว้ดีกว่าแก้จริงไหมคะ ? โดยผลิตภัณฑ์ดูแลหนังศีรษะจะเน้นไปที่การรักษาอาการหนังศีรษะแห้ง รังแค ผมร่วง และ ผมบาง แทนที่จะเน้นไปที่การรักษาริ้วรอยหรือฝ้า เหมือนผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหนังทั่วๆไป
ถ้าอยากให้หนังศีรษะงดงาม ก็ต้องดูแลเอาใจใส่กันหน่อยนะคะ เริ่มต้นจากการใช้แชมพูก่อนเลย การใช้แชมพูคู่กับการหวีผมที่ถูกต้องจะช่วยขจัดสิ่งสกปรก ฝุ่น ต่างๆ และยังกระตุ้นหนังศีรษะได้อีก นอกจากนี้ ยังขึ้นอยู่กับปริมาณ Sebum หรือไขมันที่ขับออกมาจากต่อมไขมันบนหนังศีรษะด้วยนะคะ ถ้าใครผลิต Sebum เยอะๆ จะทำให้ไขมันไปอุดตันรูขุมขนที่เส้นผมงอกออกมาด้วยนะคะ
Dr. Paul แนะนำวิธีการสระผมตามนี้ค่ะ:
หนังศีรษะแห้ง: คุณอาจจะสระผมบ่อยไปค่ะ ให้พยายามสระผม 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์และอย่าลืมให้ ครีมนวดหรือโทนิคด้วยนะคะ
หนังศีรษะมัน: ถ้าเป็นแบบนี้ต้องสระผมให้ถี่มากขึ้นค่ะ พยายามใช้แชมพูที่ไม่ได้โฆษณาว่าคืนความชุ่มชื้น และใช้ครีมนวด แค่บนส่วนกลางถึงปลายผม อย่านวดเข้าไปตรงโคนผมค่ะ
หนังศีรษะแพ้ง่าย : อุณหภูมิของน้ำที่คุณใช้ตอนสระผมจะมีส่วนอย่างมากเลย พยายามใช้น้ำทิอุ่นมากเกินไป และพยายามใช้แชมพูสูตรอ่อนโยน
อาการคันหนังศีรษะ : ปกติสามารถแก้ได้ด้วยการใช้แชมพู ขจัดรังแค แต่ถ้าแชมพูไม่ได้ผล ก็ลองนัดพบคุณหมอหรือผู้เชี่ยวชาญดูค่ะ
การหวีผมก็เป็นส่วนนึงที่สำคัญต่อการดูแลหนังศีรษะนะคะ ช่างทำผมชื่อดัง Ted Gibson ให้คำแนะนำว่า คุณควรหวีผมก่อนนอนทุกวัน เพื่อกระจายออยล์ที่ผลิตออกมาตามธรรมชาติไปตามเส้นผม และกระตุ้นหนังศีรษะ ซึ่งเป็นหนึ่งในส่วนที่สำคัญที่สุด
ลดผมร่วง ด้วยการดูแลหนังศีรษะอย่างถูกวิธี
ขอแนะนำ Paul Mitchell Tea Tree Anti-thinning Scalp Care…
ร่ายมาซะยาวเลย…แล้วผลิตภัณฑ์ไหนดีที่สุดกับการดูแลหนังศีรษะของเราล่ะ?
แอดมินอยากแนะนำชุดนี้เลย Tea Tree Anti-thinning Scalp Care ของ Paul Mitchell
โดยในชุดของเขาจะมี แชมพู ครีมนวด และ โทนิคใส่ผม
จุดเด่นอยู่ที่ตรงนี้ค่ะ “Regeniplex” เป็นสูตรพิเศษที่ทำจากสารสกัดตามธรรมชาติของสมุนไพร 5 ชนิด Ginseng, Pea Peptide, Kakadu Plum, Clover Flower และ Turmeric ร่วมกันเข้าไปกระตุ้นหนังศีรษะ ให้มีเลือดไหลเวียนดีขึ้น ลดอาการร่วงของผมได้ดี พิสูจน์แล้วในการทดลองกับมนุษย์ นอกจากนี้ยังช่วยให้เส้นผมที่งอกขึ้นใหม่มีความแข็งแรงและแลดูหนาขึ้นอีกด้วย
ทุกตัวกลิ่นหอมชื่นใจแบบธรรมชาติ รับรองไม่ผิดหวังค่ะ
ตัวแชมพูมีส่วนผสมของ ทีทรี ช่วยทำความสะอาดหนังศีรษะแบบอ่อนโยน ไม่ทำลายสี
ในขณะที่ตัวครีมนวด จะช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง
ท้ายที่สุด ตัวโทนิค Scalp Care Anti-thinning Tonic ให้ใช้ฉีด 2 ครั้ง และนวดเข้าที่หนังศีรษะ เช้า เย็นทุกวัน จะสามารถเห็นผลได้ในเวลาสองเดือนค่ะ ผมร่วงจะน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด และบอกลาปัญหาหนังศีรษะได้เลยค่ะ
สนใจสั่งซื้อได้ที่: https://www.hairandbeautybyict.com/products/85-0-0-0-0--0-TEA_TREE_SCALP_CARE
จัดส่งฟรีค่ะ
Location: ร้านทำผม Hair & Beauty by ICT
F-103 อาคาร The Nine Center Rama 9 ถนน พระราม 9 แขวง สวนหลวง แขวงสวนหลวง กรุงเทพมหานคร 10250
https://g.page/hairbeautybyict?share
โทรศัพท์ : +6620567911
Facebook: www.facebook.com/hairandbeautybyict
Instagram: @hairandbeautybyict
Line: @hairandbeautybyict
Line URL: https://lin.ee/6PhVBPb
แชมพู,ครีมนวด,โทนิคใส่ผม,ร้านออกแบบทรงผม,ดูแลเส้นผม,ทรงผม,ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม
www.facebook.com/hairandbeautybyict
https://www.hairandbeautybyict.com/products/85-0-0-0-0--0-TEA_TREE_SCALP_CARE
ดูแลหนังศีรษะ ทำไมถึงสำคัญเท่าดูแลผิวหนัง? และเกี่ยวอะไรกับผมร่วง?
ที่มา : https://aedit.com/aedition/scalp-care-for-healthy-hair
ช่วงนี้เราจะเห็นผลิตภัณฑ์ ดูแลหนังศีรษะ (Scalp Care) วางขายเต็มไปหมดเลย และถ้าจะถามว่า หนังศีรษะสำคัญไหม? ตอบง่ายๆสั้นๆเลยค่ะว่า “มาก!” เรามาดูกันเลยค่ะ ว่า ผู้เชี่ยวชาญมีความเห็นยังไงกับการดูแลหนังศีรษะบ้าง
ถ้าจะให้พูดว่าการ ดูแลหนังศีรษะ หรือ Scalp Care สำคัญพอๆกับการดูแลผิวหนัง Skin Care ไม่ได้เป็นการพูดเกินความจริงเลยค่ะ โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สังเกตได้ว่า สินค้าความงามยี่ห้อทั้งที่เกี่ยวกับเส้นผมและที่เกี่ยวกับผิวหนัง ต่างรีบออกผลิตภัณฑ์ดูแลหนังศีรษะมาแข่งกัน เพราะพวกเขาได้รู้ความจริงว่าผิวหนังที่ศีรษะ สำคัญพอๆกับผิวหนังส่วนอื่นค่ะ และควรได้รับการดูแล เท่าเทียมกัน!
ถึงจุดๆนี้ ท่ายผู้อ่านอาจจะสงสัยว่า แล้ว…แชมพูครีมนวดที่ใช้อยู่ปัจจุบันนั้นเพียงพอไหม ไม่ต้องห่วงค่ะ เราได้ถามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญมาแล้ว ตามอ่านกันได้เลยค่ะ
ทำไมการ ดูแลหนังศีรษะ ถึงสำคัญ ?
สุขภาพของหนังศีรษะมีความสัมพันธ์โดยตรงกับสุขภาพของเส้นผมค่ะ นายแพทย์ศัลยกรรมพลาสติก Dr. Benjamin Paul,MD จากคลินิค HairCareMD ที่นิวยอร์ก ได้บอกว่า หนังศีรษะเปรียบเสมือนดินที่ให้พืชหรือเส้นผมงอกขึ้นมา โดยหนังศีรษะเป็นส่วนเดียวกันกับหนังหน้า แต่หนากว่า และมีรูขุมขนกว่า 100,000 รู
การวิจัยได้ค้นพบว่า หนังศีรษะแก่ตัวเร็วกว่าหนังบนหน้าและลำตัว มากถึง 6 เท่า เนื่องจากต้องทนรับแสงแดดและมลภาวะมากกว่าผิวหนังที่ส่วนอื่นๆ ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ เช่น ผมร่วง ผมบาง รังแค หนังศีรษะมัน เป็นต้น
ซึ่งเป็นปัญหาที่เราไม่อยากพบเจอกัน
นอกจากนี้นะคะ การที่ไม่ ดูแลหนังศีรษะ จะทำให้หนังศีรษะแห้ง เกิดรังแค ทำให้เราเข้าไปเกาๆ จนทำให้เกิดแผลบริเวณรูขุมขนได้ ผมที่ร่วงออกไป ก็จะไม่งอกใหม่เพราะรูขุมขนโดนทำลายไปแล้ว หรืองอกมาใหม่ก็ไม่แข็งแรงไม่หนาเท่าเมื่อก่อน
วิธีการดูแลหนังศีรษะ
เช่นเดียวกับผิวหนังส่วนอื่นๆของคุณ คุณควรเริ่มดูแลหนังศีรษะให้เร็วที่สุด ป้องกันไว้ดีกว่าแก้จริงไหมคะ ? โดยผลิตภัณฑ์ดูแลหนังศีรษะจะเน้นไปที่การรักษาอาการหนังศีรษะแห้ง รังแค ผมร่วง และ ผมบาง แทนที่จะเน้นไปที่การรักษาริ้วรอยหรือฝ้า เหมือนผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหนังทั่วๆไป
ถ้าอยากให้หนังศีรษะงดงาม ก็ต้องดูแลเอาใจใส่กันหน่อยนะคะ เริ่มต้นจากการใช้แชมพูก่อนเลย การใช้แชมพูคู่กับการหวีผมที่ถูกต้องจะช่วยขจัดสิ่งสกปรก ฝุ่น ต่างๆ และยังกระตุ้นหนังศีรษะได้อีก นอกจากนี้ ยังขึ้นอยู่กับปริมาณ Sebum หรือไขมันที่ขับออกมาจากต่อมไขมันบนหนังศีรษะด้วยนะคะ ถ้าใครผลิต Sebum เยอะๆ จะทำให้ไขมันไปอุดตันรูขุมขนที่เส้นผมงอกออกมาด้วยนะคะ
Dr. Paul แนะนำวิธีการสระผมตามนี้ค่ะ:
หนังศีรษะแห้ง: คุณอาจจะสระผมบ่อยไปค่ะ ให้พยายามสระผม 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์และอย่าลืมให้ ครีมนวดหรือโทนิคด้วยนะคะ
หนังศีรษะมัน: ถ้าเป็นแบบนี้ต้องสระผมให้ถี่มากขึ้นค่ะ พยายามใช้แชมพูที่ไม่ได้โฆษณาว่าคืนความชุ่มชื้น และใช้ครีมนวด แค่บนส่วนกลางถึงปลายผม อย่านวดเข้าไปตรงโคนผมค่ะ
หนังศีรษะแพ้ง่าย : อุณหภูมิของน้ำที่คุณใช้ตอนสระผมจะมีส่วนอย่างมากเลย พยายามใช้น้ำทิอุ่นมากเกินไป และพยายามใช้แชมพูสูตรอ่อนโยน
อาการคันหนังศีรษะ : ปกติสามารถแก้ได้ด้วยการใช้แชมพู ขจัดรังแค แต่ถ้าแชมพูไม่ได้ผล ก็ลองนัดพบคุณหมอหรือผู้เชี่ยวชาญดูค่ะ
การหวีผมก็เป็นส่วนนึงที่สำคัญต่อการดูแลหนังศีรษะนะคะ ช่างทำผมชื่อดัง Ted Gibson ให้คำแนะนำว่า คุณควรหวีผมก่อนนอนทุกวัน เพื่อกระจายออยล์ที่ผลิตออกมาตามธรรมชาติไปตามเส้นผม และกระตุ้นหนังศีรษะ ซึ่งเป็นหนึ่งในส่วนที่สำคัญที่สุด
ลดผมร่วง ด้วยการดูแลหนังศีรษะอย่างถูกวิธี
ขอแนะนำ Paul Mitchell Tea Tree Anti-thinning Scalp Care…
ร่ายมาซะยาวเลย…แล้วผลิตภัณฑ์ไหนดีที่สุดกับการดูแลหนังศีรษะของเราล่ะ?
แอดมินอยากแนะนำชุดนี้เลย Tea Tree Anti-thinning Scalp Care ของ Paul Mitchell
โดยในชุดของเขาจะมี แชมพู ครีมนวด และ โทนิคใส่ผม
จุดเด่นอยู่ที่ตรงนี้ค่ะ “Regeniplex” เป็นสูตรพิเศษที่ทำจากสารสกัดตามธรรมชาติของสมุนไพร 5 ชนิด Ginseng, Pea Peptide, Kakadu Plum, Clover Flower และ Turmeric ร่วมกันเข้าไปกระตุ้นหนังศีรษะ ให้มีเลือดไหลเวียนดีขึ้น ลดอาการร่วงของผมได้ดี พิสูจน์แล้วในการทดลองกับมนุษย์ นอกจากนี้ยังช่วยให้เส้นผมที่งอกขึ้นใหม่มีความแข็งแรงและแลดูหนาขึ้นอีกด้วย
ทุกตัวกลิ่นหอมชื่นใจแบบธรรมชาติ รับรองไม่ผิดหวังค่ะ
ตัวแชมพูมีส่วนผสมของ ทีทรี ช่วยทำความสะอาดหนังศีรษะแบบอ่อนโยน ไม่ทำลายสี
ในขณะที่ตัวครีมนวด จะช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง
ท้ายที่สุด ตัวโทนิค Scalp Care Anti-thinning Tonic ให้ใช้ฉีด 2 ครั้ง และนวดเข้าที่หนังศีรษะ เช้า เย็นทุกวัน จะสามารถเห็นผลได้ในเวลาสองเดือนค่ะ ผมร่วงจะน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด และบอกลาปัญหาหนังศีรษะได้เลยค่ะ
สนใจสั่งซื้อได้ที่: https://www.hairandbeautybyict.com/products/85-0-0-0-0--0-TEA_TREE_SCALP_CARE
จัดส่งฟรีค่ะ
Location: ร้านทำผม Hair & Beauty by ICT
F-103 อาคาร The Nine Center Rama 9 ถนน พระราม 9 แขวง สวนหลวง แขวงสวนหลวง กรุงเทพมหานคร 10250
https://g.page/hairbeautybyict?share
โทรศัพท์ : +6620567911
Facebook: www.facebook.com/hairandbeautybyict
Instagram: @hairandbeautybyict
Line: @hairandbeautybyict
Line URL: https://lin.ee/6PhVBPb
แชมพู,ครีมนวด,โทนิคใส่ผม,ร้านออกแบบทรงผม,ดูแลเส้นผม,ทรงผม,ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม